ล้วงลึก Consent Mode ตัวช่วยวัดผล Conversion

30 ม.ค. 2566

Consent Mode
Consent Mode
Consent Mode

คุกกี้แบนเนอร์สำคัญอย่างมากกับเว็บไซต์เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับ Consent Mode และเห็นภาพรวมดาต้าที่ชัดขึ้น โดยคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้

Consent Mode คือ ฟีเจอร์โดย Google ที่คอยช่วยให้ Google Tags Manager ยังทำงานได้อยู่และเป็นไปตามความยินยอมของผู้ใช้งานอย่างถูกต้องตามกฏหมาย PDPA 

แปลว่าหากผู้ใช้ไม่กดยอมรับคุกกี้ (Accept Cookies) ข้อมูลส่วนบุคคลก็จะไม่ถูกจัดเก็บไว้ในระบบ 

นี่คือเหตุผลว่าทำไมเว็บไซต์ถึงจำเป็นต้องใช้คุกกี้แบนเนอร์ ก็เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานร่วมกับ Consent Mode ได้และเห็นภาพรวมดาต้าที่ชัดขึ้นนั่นเอง เพราะตัวแบนเนอร์คือสิ่งที่แสดงออกถึงความโปร่งใสของเว็บไซต์ให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับความคุ้มครองและเกิดประโยชน์กลับคืนสู่เจ้าของข้อมูลนั้นๆ 

ดังนั้นแล้ว ความเป็นส่วนตัวคือด่านแรกที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในใจลูกค้า 

  • ผู้ใช้มีสิทธิเลือกได้ว่าจะให้ความยินยอมกับคุกกี้แบบไหนบ้าง

  • และเกิดความเข้าใจว่าข้อมูลที่ให้ความยินยอมไปแล้วจะถูกนำไปใช้อย่างไร

เพราะ Privacy-Safe Measurement หรือ การวัดผล Conversion ที่คุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้ คือหัวใจของ Consent Mode

เชื่อว่านักการตลาดย่อมหวังผลจากการลงทุนยิงโฆษณาให้ได้กำไรกลับคืนมาคุ้มค่าที่สุด ทว่าหากภาพรวมของดาต้าที่จะนำมาใช้ประเมินผลกลับมีชิ้นส่วนจิ๊กซอร์ที่ขาดหายไป ซึ่งอาจเป็นผลมาจาก

  • ความคาดหวังของลูกค้าเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Shifting Customer Privacy Expectations)

  • ข้อจำกัดด้านเบราว์เซอร์ (Browser Restrictions)

  • การปรับระเบียบข้อบังคับ (Regulatory Updates)

การใช้งาน Conversion Modeling ผ่าน Consent Mode จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้เรารู้ว่าจิ๊กซอร์ที่ขาดหายไปหน้าตาเป็นอย่างไรนั้นConversion Modeling ช่วยให้นักการตลาดประติดประต่อดาต้าที่หายไปได้ด้วยการระบุความเชื่อมโยงระหว่างการโต้ตอบต่อโฆษณากับยอด Conversions ในขณะเดียวกัน ความเชื่อมโยงเหล่านั้นจะไม่สามารถสังเกตเห็นได้ เพื่อเคารพความต้องการที่จะรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ 

โมเดลจำลองการเกิดยอด Conversion หมากตัวสำคัญของการวัดผลโฆษณา

  • โมเดลจำลองการเกิดยอด Conversion คือ ความเชื่อมโยงระหว่างโฆษณากับยอด Conversions แน่นอนว่าไม่ใช่การสร้างยอด Conversions ขึ้นมาใหม่แต่เป็นการระบุความเชื่อมโยงระหว่างการโต้ตอบที่มีต่อโฆษณากับยอด Conversions ที่ไม่สามารถสังเกตได้เพราะผู้ใช้ไม่กดยอมรับคุกกี้

  • Conversion Modeling ช่วยให้รู้ว่าภาพรวมดาต้าจะเป็นอย่างไรหากจิ๊กซอร์ดาต้าบางชิ้นไม่ได้หายไป

  • Conversion Modeling คือสิ่งที่ช่วยปลดล็อกผลลัพธ์จากการลงทุนทำโฆษณาได้อย่างแม่นยำมากขึ้นและเห็นภาพรวมของการเกิดยอด Conversion ได้สมบูรณ์เต็มรูปร่างมากขึ้นเพราะได้รับรายงานข้อมูลอย่างอัตโนมัตินั่นเอง

  • นอกจากการวัดผล Conversion แล้ว Conversion Modeling ยังช่วยให้ธุรกิจเพิ่มประสิทธิภาพการทำแคมเปญเพื่อให้ไปถึงผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีกว่า เพราะคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและข้อบังคับเรื่องความเป็นส่วนตัวได้ทำให้นักการตลาดไม่สามารถสังเกตกลุ่มผู้ใช้โดยเฉพาะเจาะจงได้อีกต่อไป 

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อขาดข้อมูลจากกลุ่มผู้ใช้ที่ไม่กดยอมรับคุกกี้ว่ามีการใช้อุปกรณ์หรือเบราว์เซอร์ที่เฉพาะเจาะจงอย่างไร อัลกอริธึมที่ทำหน้าที่ Bidding อัตโนมัติ หรือ การเสนอราคาอัตโนมัติ อาจจะต้องเลือกทางที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดทั้งที่ได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน ทำให้เกิด Biased Learning เรียกง่ายๆ ว่าอัลกอริธึมจะทำงานเอนเอียงและแม่นยำน้อยลง ทำให้การเสนอราคาอัตโนมัติ (Automated Bidding) ลดทอนความสำคัญของลูกค้ากลุ่มนี้ไป เนื่องด้วยรายงานผลประสิทธิภาพที่ลดลง นำไปสู่ประสิทธิภาพโดยรวมที่ลดลงตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม การสร้างโมเดลจำลอง จะช่วยแก้ไขความเอนเอียงเหล่านี้และปรับการรายงานผลเพื่อให้มั่นใจว่าการเสนอราคาอัตโนมัติสามารถเข้าถึงตัวแทนข้อมูลประสิทธิภาพส่วนใหญ่ได้ 

สรุปก็คือ Conversion Modeling ทำให้นักการตลาดมั่นใจได้ว่าจะสามารถวัดผลการทำโฆษณาได้อย่างปลอดภัยต่อความเป็นส่วนตัว (Privacy-Safe) ของเจ้าของข้อมูล

Conversion Modeling ใช้พฤติกรรมของกลุ่มผู้ใช้ที่กดยอมรับคุกกี้ในการทำนายพฤติกรรมของกลุ่มผู้ใช้ที่ไม่กดยอมรับคุกกี้ได้โดยไม่ระบุตัวตนบุคคลใด ซึ่งในโมเดลที่จำลองขึ้นจะอาศัยการป้อนข้อมูลทั่วไป เช่น ประเภทอุปกรณ์, ประเภท Conversion, ประเทศ, เวลา, และ ชนิดเบราว์เซอร์ที่ใช้ ซึ่งได้จากกลุ่มที่ยอมรับคุกกี้มาใช้สร้างแหล่งอ้างอิงสำหรับกลุ่มที่ไม่ยอมรับคุกกี้ ซึ่งจะช่วยให้นักการตลาดสามารถสร้างโมเดลจำลองอัตราการเกิด Conversion ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แน่นอนว่าข้อมูลที่ถูกป้อนจะไม่มีข้อมูลอ่อนไหวอย่าง อายุ เพศ หรือข้อมูลประชากรอื่นๆ

Conversion Modeling ทำงานยังไงกันแน่

ดาต้าแรกสุดที่ได้รับจะมาในรูปแบบของการโต้ตอบต่างๆ ต่อโฆษณา (Ads Interactions) เช่น การคลิกและการหยุดดูโฆษณา และ ยอด Conversion เช่น การกดซื้อหรือกดดาวน์โหลด ซึ่งนักการตลาดจะเห็นความเชื่อมโยงระหว่าง Ads Interactions และ Conversion ได้เมื่อมีการใช้งานคุกกี้ และเข้าใจได้ว่า Conversions ที่เกิดขึ้นได้มาจากโฆษณาตัวไหน แต่ในบางครั้งเราก็อาจได้ดาต้าเหล่านั้นมาแต่ไม่สามารถหาความเชื่อมโยงระหว่างกันได้ ซึ่งแปลว่าแม้จะรู้ว่ามีการโต้ตอบต่อโฆษณาและมีการเกิด Conversion แต่ก็บอกไม่ได้อยู่ดีว่า การโต้ตอบไหนทำให้เกิด Conversion ไหน เพราะข้อจำกัดของความยินยอมต่อการใช้งานคุกกี้ (Cookie Consent) นั่นเอง

การทำงานของ Conversion Modeling

  1. เมื่อมีเหตุการณ์ที่ผู้ใช้ไม่กดยอมรับคุกกี้ สิ่งแรกที่ Consent Mode ทำคือการนำกลุ่มผู้ใช้ที่กดยอมรับคุกกี้ซึ่งสามารถเห็นความเชื่อมโยงระหว่างการโต้ตอบต่อโฆษณากับ Conversions แล้วแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยโดยแยกย่อยตามข้อมูลทั่วไป 

  2. จากนั้นจึงคำนวณอัตราการเกิด Conversion ที่เกิดขึ้นในแต่ละกลุ่ม ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มย่อย 1 คือผู้ใช้ที่อยู่ในประเทศ A ที่ใช้เบราว์เซอร์ B ผ่านอุปกรณ์ C มีอัตราเกิด Conversion เท่าไหร่ ซึ่งเราจะเห็นลักษณะข้อมูลเช่น ประเทศ เบราว์เซอร์ และอุปกรณ์เหล่านี้ในกลุ่มผู้ใช้ที่ไม่กดยอมรับคุกกี้เช่นเดียวกันแต่ไม่สามารถบอกความเชื่อมโยงได้เหมือนกลุ่มย่อย 1  จึงต้องแยกย่อยออกมาตามข้อมูลที่มีลักษณะคล้ายกัน

  3. แยกข้อมูลจากผู้ไม่ยอมรับคุกกี้เป็นกลุ่มย่อย เช่นเดียวกับที่ได้แบ่งไว้ในกลุ่มย่อยของข้อมูลผู้ยอมรับคุกกี้ ให้มีความสอดคล้องกัน

  4. สุดท้ายเมื่อได้กลุ่มย่อยที่ข้อมูลจากทั้งผู้ยอมรับและไม่ยอมรับคุ้กกี้สอดคล้องกันแล้วจึงจะสามารถสร้างโมเดล Machine Learning ขึ้นจากอัตราการเกิด Conversionในกลุ่มที่ยอมรับคุกกี้เพื่อทำนายอัตราการเกิด Conversion ในกลุ่มที่ไม่ยอมรับคุกกี้

  5. ข้อมูลจากผู้ไม่ยอมรับคุกกี้และความเชื่อมโยงระหว่างการโต้ตอบโฆษณากับ Conversion ที่จำลองขึ้นมาจะถูกผนวกรวมไว้ในการรายงานผล เพื่อให้เห็นภาพรวมของข้อมูลทั้งหมด

CookiePlus แพลตฟอร์มจัดการความยินยอมที่ตอบโจทย์การวัดผล Conversion

เพื่อให้ทุกการลงทุนกับการทำโฆษณาคุ้มค่าคุ้มราคากับสิ่งที่จ่ายไป คุกกี้พลัสจึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่เข้ามาเติมเต็มการทำงานของ Google Consent Mode เพื่อการรายงานผล Conversion อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ที่ตอบโจทย์การวัดผลที่แม่นยำ

  • Detailed Dashboard แดชบอร์ดแสดงผลอย่างละเอียดเข้าใจง่าย อ่านรายงานต่อวันได้เลยว่าผู้ใช้ให้ความยินยอมหรือปฏิเสธแต่ละหมวดหมู่อย่างไร

  • Consent Report รายงานแบบวันต่อวันว่าในแต่ละประเภทคุกกี้มีผู้ใช้ให้ความยินยอมหรือปฏิเสธอย่างไรบ้าง

  • CookiePlus Scan ช่วยสแกนคุกกี้พร้อมจัดหมวดหมู่เสร็จสรรพ ลดความยุ่งยากซับซ้อนของขั้นตอนจัดการคุกกี้ให้เป็นเรื่องง่ายขึ้น

  • Freestyle Banner เลือกปรับแต่งคุกกี้แบนเนอร์ได้ดั่งที่ต้องการตรงตามภาพลักษณ์ของแบรนด์

  • One for All รองรับการแสดงผลบนทุกอุปกรณ์ทั้งมือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต

  • Easy Install ติดตั้งง่าย เริ่มใช้งานได้ทันที เพียงแค่ สมัครสมาชิกฟรี และนำโค้ดไปติดในเว็บไซต์ก็สามารถเริ่มใช้งานได้เลยตั้งแต่วันนี้

ยิ่งไปกว่านั้นคุกกี้พลัสยังที่ช่วยให้สายสัมพันธ์ที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์มีต่อธุรกิจแข็งแรงมากขึ้นบนความเชื่อมั่นโดยการเป็นสื่อกลางคอยทำหน้าที่ส่งสารไปถึงผู้เข้าชมเว็บไซต์ ทั้งยังตอบโจทย์การทำงานตามแพ็คเกจที่หลากหลายเหมาะสมกับขนาดของแต่ละธุรกิจด้วยฟีเจอร์สำคัญที่จำเป็นต่อสร้างแบนเนอร์คุกกี้และจัดการความยินยอมจากผู้ใช้ ได้แก่

  •  จัดเก็บข้อมูลได้อย่างไม่จำกัดไม่ว่าจะกี่ Pageviews ที่ถูกเปิดเข้าชม

  •  จัดเก็บข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์ได้ตั้งแต่ 2,000 – 500,000 Sessions ต่อเดือน ​​โดยนับจากจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ และจะหมดอายุหลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมงจึงเริ่มนับเป็น Session ใหม่

  •  จำนวนผู้ใช้งานตั้ง 1 บัญชีขึ้นไปจนถึงไม่จำกัดจำนวนบัญชี

  •  สแกน URLs ทั้งหมดที่มีบนเว็บไซต​์ตั้งแต่ 50 URLs ไปจนถึง 50,000 URls 

  •  บันทึกความยินยอมจากผู้ใช้ได้ตั้งแต่ 100,000 ไปจนถึงไม่จำกัดจำนวน ตามความยินยอมทั้งหมดที่บันทึกได้

  •  สามารถจัดเก็บข้อมูลได้เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 3 เดือนไปจนถึง 24 เดือน

  •  สำหรับ Basic Plan ขึ้นไปสามารถปรับแต่งแบนเนอร์ได้แบบละเอียดตามความต้องการ

  •  สำหรับ Basic Plan ขึ้นการปรับแต่งแบนเนอร์โลโก้และไอคอนได้ตามต้องการและความเหมาะสมกับเอกลักษณ์ของแต่ละธุรกิจ 

  •  สำหรับ Basic Plan ขึ้นไปมีการใช้ Google Consent Mode เข้ามาช่วยในการวัดผล Conversion เพื่อใช้วิเคราะห์และประเมินประสิทธิภาพของการทำการตลาด

เริ่มต้นใช้งาน CookiePlus เพื่อตอบรับกับก้าวใหม่ของธุรกิจสู่ยุค Privacy-First ด้วยแพ็คเกจคุกกี้พลัส Free Plan สำหรับเว็บไซต์ขนาดเล็กที่สามารถใช้งานได้ฟรีทันทีเพียง สมัครสมาชิก เท่านั้นก็สามารถทดลองใช้คุกกี้พลัสได้อย่างไม่จำกัดจำนวน Pageviews ที่ CookiePlus มีทีมงานคุณภาพและมากประสบการณ์พร้อมตอบทุกคำถามคาใจให้ธุรกิจของคุณขับเคลื่อนไปด้วยพลังของดาต้า และ เรายินดีให้คำปรึกษาเบื้องต้นฟรี

ทำให้การใช้คุกกี้และความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์ของคุณเป็นไปตามข้อกำหนดตั้งแต่วันนี้

เริ่มต้นใช้งานฟรี

Copyright ©2024 CookiePlus by Predictive Company Limited

Copyright ©2024 CookiePlus by Predictive Company Limited

Copyright ©2024
CookiePlus by Predictive Company Limited