First-Party Cookies สำคัญแค่ไหนเมื่อ 3rd Party กำลังจะตาย

เมื่อมี PDPA เข้ามาใช่ว่าทุกธุรกิจจะไม่สามารถใช้งาน Cookies ได้อีกต่อไปเพียงแต่จำเป็นต้องใส่ใจขอความยินยอมจากผู้ใช้ (Cookies Consent) ด้วยการสร้างคุกกี้แบนเนอร์เพื่อขอความยินยอมและเน้นเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นหลัก

First-Party Cookies สำคัญอย่างไรในวันที่ 3rd Party กำลังจะตาย

การเข้ามาของ PDPA เป็นสิ่งยืนยันอย่างแท้จริงว่าโลกของธุรกิจได้เปลี่ยนผ่านมาสู่ยุคของ Data-Privacy ที่ผู้ใช้มีสิทธิ์เลือกว่าจะยอมรับหรือปฏิเสธให้แต่ละธุรกิจจัดเก็บข้อมูลของตัวเองทำให้แนวโน้มของการดำเนินธุรกิจต่อจากนี้ไปจะมีความเชื่อใจของลูกค้าเป็นตัวแปรสำคัญในวางแผนการตลาด 

ในการวิจัยโดยSaleforce ถึงสถานะของผู้บริโภคทั่วโลกที่เชื่อมถึงกับธุรกิจต่างๆ ผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ตเพื่อศึกษาเกี่ยวกับจุดตัดระหว่างประสบการณ์ใช้งาน เทคโนโลยี และความไว้ใจของผู้บริโภค พบว่า 

• ผู้บริโภคกว่า 63% เชื่อว่าอาจมีการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต 

• 62% ของผู้บริโภครู้สึกไม่สบายใจว่าธุรกิจต่างๆ นำเข้ามูลส่วนตัวไปใช้อย่างไร

• มีผู้บริโภคที่รู้สึกสับสนว่าธุรกิจต่างๆ จะนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้งานอย่างไรกว่า 50% 

ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีตัวเลขชี้ชัดออกมาว่าผู้ใช้คนไทยตอบรับกับ Data-Privacy อย่างไร แต่เชื่อว่าหลายเว็บไซต์เริ่มสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของยอด Traffic ที่เข้ามายังเว็บไซต์ที่ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงที่มีการประกาศใช้ PDPA ออกมา ซึ่งอาจตีความได้ว่าเกิดจากการที่ผู้ใช้กดปฏิเสธไม่ยอมรับคุกกี้ให้เข้ามาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลทำให้เกิดปัญหาในการวัดผล Conversion ซึ่งแน่นอนว่า สิ่งนี้ไม่เพียงบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าคนไทยเองตระหนักรู้และให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเท่านั้น แต่ยังแสดงออกให้เห็นถึงความเชื่อใจของผู้ใช้ที่มีต่อแบรนด์ในแง่มุมต่อไปนี้

• รู้สึกไม่มีอำนาจในความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล

• มองว่าความเสี่ยงในข้อมูลมีมากกว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับ

• กังวลว่าธุรกิจต่างๆ สามารถจัดเก็บข้อมูลเราได้อย่างไร

• ไม่เข้าใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกนำไปใช้อย่างไรได้บ้าง

First-Party vs 3rd-Party Cookies คืออะไร ต่างกันตรงไหน

First-Party กับ 3rd-Party Cookies ต่างกันตรงที่การแบ่งปันทางข้อมูล เพราะ First-Party Cookies จะถูกสร้างและใช้งานอยู่บนโดเมนเดียวเท่านั้นไม่แบ่งปันข้อมูลกับโดเมนอื่น เมื่อไหร่ก็ตามที่มีผู้ใช้มายังเว็บไซต์ Javascripts จะสร้างคุกกี้ขึ้นมาจัดเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของผู้ใช้แต่ละคน 

First-Party Cookies จึงมีขึ้นเพื่อประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์เป็นหลัก 

เช่น จดจำการ Log in เพื่อผู้ใช้ไม่ต้องกรอก Username/ Password ใหม่ทุกครั้งที่เข้ามา หรือ จดจำสินค้าที่ถูกเลือกหรือหยิบใส่ตระกร้าไว้แล้วไม่ต้องกดใหม่ทุกครั้งที่เปลี่ยนไปหน้าใหม่ ทั้งหมดนี้เพื่อให้ผู้ใช้แต่ละคนได้รับประสบการณ์การใช้งานที่เฉพาะเจาะจงกับความเป็นตัวเอง (Personalization) ซึ่งแต่ละเว็บไซต์ก็มีการใช้งานคุกกี้แตกต่างกันไป

ในทางตรงกันข้าม 3rd-Party Cookies เป็นการแชร์ไฟล์คุกกี้ที่จัดเก็บได้ไปยังอีกโดเมน โดยเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้เข้ามายังเว็บไซต์ A จะมีการสร้างคุกกี้ขึ้นมาเพื่อจัดเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ A แต่เมื่อผู้ใช้คลิกออกจากเว็บ A ไปยังเว็บ B และ เว็บ B มีการดึงไฟล์คุกกี้จากเว็บ A มาด้วยในการติดตามการใช้งานเว็บไซต์เพื่อยิงโฆษณาที่คอยตามหลอกหลอนผู้ใช้ไปเรื่อยๆ 

เช่น ผู้ใช้เข้าไปกดดูรองเท้าบนเว็บไซต์รองเท้าหนึ่งแต่ยังตัดสินใจไม่ได้จึงหยิบรองเท้าใส่ตระกร้าสินค้าไว้เฉยๆ และเปลี่ยนไปเข้าเว็บไซต์อุปกรณ์กีฬาต่อ แต่ในหน้าเว็บกลับมีโฆษณาของรองเท้ายี่ห้อเดียวกับเว็บก่อนหน้า เท่ากับว่ามีการส่งต่อไฟล์คุกกี้จากเว็บไซต์รองเท้ามายังเว็บไซต์อุปกรณ์กีฬา

แม้ว่า Personalization จึงเป็นความท้าทายของนักการตลาดที่จะต้องปรับกลยุทธ์การเข้าถึงลูกค้า แต่สิ่งที่ผู้ใช้ต้องการไม่น้อยไปกว่ากันคือความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล นี่จึงเป็นความรับผิดชอบของแต่ละธุรกิจที่จะแสดงออกถึงความโปร่งใสเพื่อสร้างความไว้ใจ หนึ่งในวิธีการที่สามารถทำได้คือการสื่อสารอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา 

CookiePlus ตอบโจทย์การจัดการ cookie อย่างไร

ในวันที่ 3rd-Party Cookies กำลังจะตายกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นความสำคัญของ Data-Privacy ที่ทุกธุรกิจต้องพึ่งพิง First-Party Cookies เป็นหลักและโฟกัสกับการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจเพื่อให้ได้มาซึ่งอัตรายอด Conversion ที่เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลและปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ (Conversion Rate Optimization)

CookiePlus จึงตอบโจทย์กับการใช้งานทุกประเภท Cookies อย่างคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้ด้วยจุดเด่นของคุกกี้พลัสที่มีการใช้งานบนโดเมนเดียวเท่านั้นเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้ 

CookiePlus ถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มการวัดผล Conversion อย่างมีประสิทธิภาพโดยทำงานร่วมกับ Google Consent Mode โดยการจำลองพฤติกรรมของผู้ใช้ขึ้นมาเป็น Modeled Data เพื่อให้เห็นภาพรวมของข้อมูลทั้งหมดและสอดคล้องกฏหมาย PDPA นอกจากนี้การติดตั้งคุกกี้แบนเนอร์โดยคุกกี้พลัสยังสามารถพัฒนาความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ได้ด้วยการยกอำนาจให้ผู้ใช้มีสิทธิเลือกยินยอมหรือปฏิเสธการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลแค่ไหนอย่างโปร่งใส เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นในปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ ทั้งยังตอบโจทย์การทำงานตามแพ็คเกจที่หลากหลายเหมาะสมกับขนาดของแต่ละธุรกิจด้วยฟีเจอร์สำคัญที่จำเป็นต่อสร้างแบนเนอร์คุกกี้และจัดการความยินยอมจากผู้ใช้ ได้แก่

• ใช้งานได้อย่างไม่จำกัดไม่ว่าจะกี่ Pageviews ที่ถูกเปิดเข้าชม

• จัดเก็บข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์ได้ตั้งแต่ 2,000 – 500,000 Sessions ต่อเดือน ​​โดยนับจากจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ และจะหมดอายุหลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมงจึงเริ่มนับเป็น Session ใหม่

• จำนวนผู้ใช้งานตั้ง 1 บัญชีขึ้นไปจนถึงไม่จำกัดจำนวนบัญชี

• สแกนURLsทั้งหมดที่มีบนเว็บไซต์ตั้งแต่ 50 URLs ไปจนถึง 50,000 URls 

• บันทึกความยินยอมจากผู้ใช้ได้ตั้งแต่ 100,000 ไปจนถึงไม่จำกัดจำนวน ตามความยินยอมทั้งหมดที่บันทึกได้

• สามารถจัดเก็บข้อมูลได้เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 3 เดือนไปจนถึง 24 เดือน

• สำหรับ Basic Plan ขึ้นไปสามารถปรับแต่งแบนเนอร์ได้แบบละเอียดตามความต้องการ

• สำหรับ Basic Plan ขึ้นการปรับแต่งแบนเนอร์โลโก้และไอคอนได้ตามต้องการและความเหมาะสมกับเอกลักษณ์ของแต่ละธุรกิจ 

• สำหรับ Basic Plan ขึ้นไปมีการใช้ Google Consent Mode เข้ามาช่วยในการวัดผล Conversion เพื่อใช้วิเคราะห์และประเมินประสิทธิภาพของการทำการตลาด

เริ่มต้นใช้งาน CookiePlus เพื่อตอบรับกับก้าวใหม่ของธุรกิจสู่ยุค Privacy-First ด้วย แพ็คเกจคุกกี้พลัส Free Plan สำหรับเว็บไซต์ขนาดเล็กที่สามารถใช้งานได้ฟรีทันทีเพียง สมัครสมาชิก เท่านั้นก็สามารถทดลองใช้คุกกี้พลัสได้อย่างไม่จำกัดจำนวน Pageviews ที่ CookiePlus มีทีมงานคุณภาพและมากประสบการณ์พร้อมตอบทุกคำถามคาใจให้ธุรกิจของคุณขับเคลื่อนไปด้วยพลังของดาต้า และ เรายินดีให้คำปรึกษาเบื้องต้นฟรี