ชวนรู้จัก Consent Mode ตัวช่วยวัดผล Conversion ที่รองรับ PDPA
Oct 19, 2022
เชื่อว่าหลังจากที่มีประกาศใช้พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลออกมา หลายธุรกิจเริ่มประสบกับความท้าทายครั้งใหม่ให้หนาวกายร้อนใจเพราะไม่สามารถเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้อย่าง IP Address, Cookie ID, ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ, ข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ (Address) และอื่นๆ ได้อีกต่อไปหากผู้ใช้หรือลูกค้าไม่ให้ความยินยอม (Cookie Consent) ราวกับว่าปิดตาดวงเดิมที่เคยใช้อ่านใจลูกค้าและคาดคะเนเส้นทางการดำเนินธุรกิจในอนาคตได้ยากขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือคำถามที่ว่านักการตลาดจะเรียนรู้พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายและวัดผลการทำโฆษณาได้อย่างไรในยุค Data Privacy ที่ไร้ซึ่ง 3rd Pary Cookie
เกิดอะไรขึ้นหากผู้ใช้ไม่ยินยอมให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคล (Cookie Consent)
ข้อมูลที่ได้จากการติดตั้งคุกกี้บนเว็บเบราเซอร์ไม่ว่าจะ ตำแหน่งที่อยู่, อายุของผู้ใช้, หรือประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ ล้วนสำคัญมากสำหรับการทำการตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างเจาะจงตรงเป้า ทั้งยังนำมาใช้ประเมินงบคร่าวๆ ว่าเราจะยิงโฆษณาอย่างไรให้ตรงจุดเพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ แต่ทว่าในยุคต่อไปนี้ที่ธุรกิจไม่อาจจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้เพื่อทำความรู้จักกับลูกค้าของตัวเองได้มากเช่นเดิมแล้ว ก็ถึงคราวต้องพึ่งพาดาต้าส่วนที่พอหลงเหลือมาใช้สร้างโมเดลเพื่อทำนายถึงพฤติกรรมของลูกค้าด้วยการทำงานของ Consent Mode
Consent Mode คืออะไร
Consent Mode คือฟีเจอร์จาก Google ที่คอยช่วยให้ Google Tags ยังทำงานได้อยู่และเป็นไปตามความยินยอมของผู้ใช้งานอย่างถูกต้องตามกฏหมาย PDPA แปลว่าหากผู้ใช้ไม่กดยอมรับคุกกี้ (Accept Cookies) ข้อมูลส่วนบุคคลก็จะไม่ถูกจัดเก็บไว้ในระบบ
การทำงานของ Consent Mode จึงเป็นเหมือนการสร้างทางแยกให้ Google Tags สามารถติดตามเก็บข้อมูลเฉพาะที่ผู้ใช้สมัครใจยินยอมตามแต่ละประเภทของคุกกี้โดยไม่ล้ำเส้นความเป็นส่วนตัว ในขณะเดียวกัน Consent Mode ก็ยังสามารถจัดเก็บข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตนเพื่อประมาณการณ์ดาต้าส่วนนั้นที่ขาดหายไปโดยที่ยังรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ไว้อยู่
Consent Mode Modeling โมเดลทำนายพฤติกรรมผู้ใช้
ในกรณีที่ผู้ใช้ Say No ไม่กดยอมรับคุกกี้ประเภท ad cookies หรือ analytics cookies แล้วนั้น Consent Mode จะทำงานอัตโนมัติเพื่อปรับไม่ให้ Google Tag เข้าไปอ่านหรือเขียนคุกกี้ที่เกี่ยวข้อง แน่นอนว่าทำให้เกิดช่องว่างทางดาต้าเพราะข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่เข้ามาจะไม่ถูกจัดเก็บไว้ ในการยิงแอดแต่ละทีก็ยิ่งไม่รู้จะเชื่อมโยงการคลิกโฆษณา (ad clicks) กับ การซื้อขาย (Conversion) ในรายงานผลได้อย่างไรดี
นี่จึงเป็นที่มาของ Consent Mode Modeling ซึ่งก็คือ การทำงานของ AI เพื่อสร้างโมเดลจำลองเข้าไปเรียนรู้พฤติกรรม (Behavior) และการซื้อสินค้า (Conversion) เพื่อทำนายผลออกมาเป็นค่าเฉลี่ยในรูปของข้อมูลโดยประมาณ (Estimated) แบ่งได้ออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่
1.Behavioral Modeling โมเดลจากพฤติกรรมผู้ใช้
เมื่อผู้ใช้ไม่กดยอมรับคุกกี้ Consent Mode จะใช้ Machine Learning เข้ามาสร้างแบบจำลองพฤติกรรมของผู้ใช้ที่ไม่กดยอมรับคุกกี้ขึ้นมาจากผู้ใช้ที่กดยอมรับคุกกี้ สิ่งที่ได้คือข้อมูลเชิงลึกที่ยังรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ไว้อยู่ ข้อมูลจากการจำลองพฤติกรรมผู้ใช้ที่ Say No กับคุกกี้นี้เองนับเป็น Modeled Data ส่วนข้อมูลจากผู้ใช้ที่กดยอมรับคุกกี้นับเป็น Observed Data ทั้งหมดนี้เพื่อให้เรามองเห็นภาพรวมของข้อมูลทั้งหมด
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อ Analytics จัดเก็บได้ว่ามียอดเข้าชมหน้าเว็บทั้งหมด 100 events ซึ่งไม่สามารถระบุตัวตนได้ว่าเกิดจากผู้ใช้ 100 คนจริงหรือแค่ 1 คนแต่ 100 ครั้งกันแน่ ตอนนี้นี่เองที่จะมีการใช้ Machine Learning เข้าไปประเมินพฤติกรรมจากผู้ใช้ที่ไม่ระบุตัวตนเหล่านี้เทียบกับพฤติกรรมของผู้ใช้ที่มีการกดยอมรับคุกกี้ พฤติกรรมที่ว่าอาจเป็นได้ทั้ง การกดคลิกออกจากหน้าเว็บ, การไม่กดลิงก์ต่อ, การไม่คลิกไปยังหน้าอื่น หรือ อยู่บนหน้าเว็บไม่ถึง 10 วินาที เป็นต้น
2.Conversion Modeling โมเดลจากยอด Conversion
ในขณะเดียวกัน การที่ผู้ใช้ไม่กดยอมรับคุกกี้จะทำให้ให้เราไม่สามารถปะติดปะต่อระหว่างการกระทำของผู้ใช้กับยอด Conversion ที่เกิดขึ้นได้ แหล่งที่มาของยอดการซื้อที่ขาดหายไปนี้เองทำให้นักการตลาดทั้งหลายคลางใจว่าจะวัดผลประสิทธิภาพของการทำโฆษณาหรือแคมเปญอย่างไรดี
การสร้างโมเดลจากยอด Conversion จึงเข้ามาเติมเต็มข้อมูลที่ขาดหายไปด้วยการใช้ Machine Learning เข้าไปวิเคราะห์ข้อมูลที่ประเมินได้ร่วมกับแนวโน้มที่เกิดขึ้นในอดีต เพื่อบอกจำนวนระหว่างผู้ใช้ที่ไม่กดยอมรับคุกกี้กับผู้ใช้ที่กดยอมรับคุกกี้ โดยการจำลองเส้นทางของผู้ใช้ที่ไม่กดยอมรับคุกกี้ ซึ่งอาศัยข้อมูลที่สังเกตได้จากผู้ใช้ที่กดยอมรับคุกกี้ว่ามีการเดินทางมาจนเกิด Conversion ได้อย่างไร (User Journeys) โดยไม่ละเมิดความยิมยอมของผู้ใช้แต่อย่างใด
CookiePlus Solutions คุกกี้พลัสช่วยจัดการคุกกี้อย่างไร
เห็นชัดแล้วว่าไม่ว่าจะธุรกิจใดในตอนนี้ต่างต้องให้ความสำคัญกับ User Privacy มาเป็นอันดับหนึ่ง ทุกการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวิเคราะห์และทำการตลาดต้องผ่านการยินยอมโดยผู้ใช้ คุกกี้พลัสจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเข้ามาเป็นส่วนเติมเต็มการทำงานของ Google Consent Mode เพื่อการรายงานผลยอด Conversion อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ที่มีในCookiePlus ได้แก่
Detailed Dashboard แสดงผลอย่างละเอียดเข้าใจง่าย อ่านรายงานต่อวันได้เลยว่าผู้ใช้ให้ความยินยอมหรือปฏิเสธแต่ละหมวดหมู่อย่างไร
CookiePlus Scan ช่วยสแกนคุกกี้พร้อมจัดหมวดหมู่เสร็จสรรพ ลดความยุ่งยากซับซ้อนของขั้นตอนจัดการคุกกี้ให้เป็นเรื่องง่ายขึ้น
Freestyle Banner เลือกปรับแต่งคุกกี้แบนเนอร์ได้ดั่งที่ต้องการตรงตามภาพลักษณ์ของแบรนด์
One for All รองรับการแสดงผลบนทุกอุปกรณ์ทั้งมือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต
Easy Install ติดตั้งง่าย เริ่มใช้งานได้ทันที เพียงแค่ สมัครสมาชิกฟรี และนำโค้ดไปติดในเว็บไซต์ก็สามารถเริ่มใช้งานได้เลยตั้งแต่วันนี้
Consent Mode ฟีเจอร์บน Google ที่ทำให้การวัดผล Conversion แม่นยำขึ้นโดยเป็นไปตามความยินยอมของผู้ใช้งานและถูกต้องตามกฏหมาย PDPA
Make your website's cookie usage and privacy compliant with regulations starting today.
Start using for free